กิ่วแม่ปาน

22

กิ่วแม่ปาน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตรง กม.ที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ ทะเลหมอกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง ของดอยอินททนท์เส้นทางช่วงแรกผ่านเข้าไปในป่าดิบเขาซึ่งมีบรรยากาศร่มครึ้ม มีแสงแดดส่องลงมาเพียงรำไรตามพื้นป่าเต็มไปด้วย เฟินหลากหลายชนิด มีมอสสีเขียวขึ้นคลุมตามโคนต้นไม้และบริเวณริมห้วยที่ชุมชื้น ทางจะเดินขึ้นเขาจนทะลุออกยังทุ่งหญ้าโล่งกว้างของ สันกิ่วแม่ปานซึ่งมีแสง แดดจ้าและสายลมแรงมาถึงจุดชมวิวสูงสุด ถัดจากจุดชมวิวไปจะเป็นทางเดินเลียบไปตามสันเขาเลียบหน้าผา ซึ่งจะสามารถเดินได้เพียงคนเดียว จึงเป็นที่มาของชื่อ “กิ่วแม่ปาน” ระหว่างทางจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ชม อย่างเพลิดเพลินจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่สันเขานี้จะมี“ต้นกุหลาบพันปี” สีแดงสด ออกดอกให้ได้ชื่นชมกันในช่วงฤดูหนาว และถ้าหากโชคดี อาจได้เห็นกวางผาตามริมหน้าผาแห่งนี้ด้วย

55.jpg

การเดินทาง จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่ -ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอำเภอ หางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามถนนสายจอมทอง- อินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น้ำตกแม่กลาง) และ ตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็นระยะทางทั้งหมด 49.8 กม

ที่ตั้ง  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง  จ.เชียงใหม่

ขอบคุณภาพจาก pantip

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://www.chiangmaipao.go.th

ดอยพุ่ยโค

2f57acddcec1fd865d1e52847662e4e9.jpg

ดอยพุ่ยโค หรือดอยพุย (ภาษาท้องถิ่นของชาวกระเหรี่ยง)ตั้งอยู่ที่ บ้านอุมดาเหนือ ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ห่างจากที่ว่าการอำเภอสบเมยประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นดอยสูงระดับต้นๆของแม่ฮ่องสอน เป็นภูเขาไฟเก่า คำว่าพุ่ยโคแปลว่าภูเขาไฟ อีกชื่อหนึ่งของมันคือดอยปุยหลวง ดอยพุ่ยโค  ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทอง วิวทิวทัศน์สวยงามและสุดยอดทะเลหมอกที่สามารถมองวิวได้รอบ 360 องศา ทำให้สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกดิน ในยามค่ำคืนมีดาวเต็มฟ้า ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ถึงยอดดอย เส้นทางบางช่วงชัน เล็กน้อยแต่ถือว่าเป็นการเดินป่าที่ค่อนข้างง่ายและใช้เวลาเดินขึ้นไม่นานนักแต่กลับได้พบความสวยงามของธรรมชาติที่ สวยงามแสนบริสุทธิ์  ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวที่จะได้พบกับทุ่งหญ้าสีทองคือ เดือนมกราคม-กุมภาพันธุ์

การเดินทาง จาก อ.อมก๋อย ด้วยเส้นทาง 1099  สู่ปากทางหลวง 108 อ.ฮอด-แม่สะเรียง 50 กิโลเมตรสู่แม่สะเรียง 64 กิโลเมตร จากแม่สะเรียงมุ่งสู่ทาง หลวง 105 แม่สะเรียง-แม่สอด จุดหมายอำเภอปลายทางที่ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ระยะทางอีก 26 กิโลเมตร เมื่อถึงอำเภอสบเมย เจอสี่แยกอำเภอสบเมยเลี้ยวขวาจะเข้าไปในตัวอำเภอสบเมย แล้วเลี้ยวซ้ายไป บ้านอุมดาเหนือ มีป้ายบอกทางไปโรงเรียนบ้านอุมดาเหนือ  ขับเข้าไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตรไปจนถึงจุดเดินเท้าดอยพุ่ยโค แนะนำเป็นรถโฟรวิวเท่านั้น

ที่ตั้ง  บ้านอุมดาเหนือ ต.แม่คะตวน อ.สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ขอบคุณภาพจาก อนาถาทัวร์

ข้อมุลเพิ่มเติม www.painaidii.com/

หมู่เกาะสิมิลัน

1395219376-ARM0311res-o.jpg

หมู่เกาะสิมิลัน ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 43 อยู่ในเขต อ.คุระบุรี จ.พังงา สิมิลัน เป็นภาษายาวี หมายถึง เก้า ตามจำนวนเกาะที่เรียงตัวในแนวเหนือ-ใต้ โดยเกาะหนึ่งอยู่ด้านทิศใต้ เกาะแปดหรือเกาะสิมิลันมีขนาดใหญ่ที่สุดบนพื้นที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ หมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด 9 เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกระโหลก ( เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู มีที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ที่เกาะเมี่ยงเพราะเป็นเกาะที่มีน้ำจืด หมู่เกาะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังที่มีสีสันสวยงามหลายชนิด ปลาหลากสีสันและหายาก เช่น กระเบนราหู ปลาวาฬ ปลาโลมา ปลาไหลมอนเร่ ปลาการ์ตูน    หากใครคิดจะไปเที่ยวที่ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีคลื่นลมแรงเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติ จะประกาศปิดเกาะในเดือนพฤษภาคมเพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติทุกปี

การเดินทาง ท่าเรือหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ก็สามารถเดินทางไปอุทยานฯได้ ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัทนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หรือเดินทางโดยเรือท่องเที่ยวของบริษัทเอกชน

ที่ตั้ง  ต.เกาะพระทอง  อ.คุระบุรี จ.พังงา

ขอบคุณภาพจาก pantip

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.oceansmile.com

ม่อนพูนสุดา

562_4.jpg

ม่อนภูสุดา เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากม่อนครูบาใส 200 เมตร ชื่อม่อนตั้งขึ้นตามชื่อของ นักถ่ายภาพชั้นครูของเมืองไทย คือ อาจารย์พูน เกษจำรัส และภรรยาของท่านชื่อ สุดา เพื่อเป็นเกียรติแด่ อาจารย์พูน ในฐานะที่เป็นผู้เดินทางมาถ่ายภาพบนหม่อนนี้เป็นคนแรก ม่อนพูนสุดาน่ามาเยือนอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่เมย โดยม่อนพูนสุดานั้นอยู่ห่างจากม่อนกระทิง 2 กิโลเมตรนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสทะเลหมอกอย่างใกล้ชิด ส่วนใหญ่จะมากางเต้นท์แคมปิ้งสัมผัสทะเลหมอกอย่าง ซึ่งจะเลือกกางเต้นท์ที่จุดใดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมกางเตนท์ที่ม่อนกิ่วลมเนื่องจากที่นี่เป็นจุดที่ี่พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จุดชมวิวบนม่อนพูนสุดาจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆทั้งสิ้น ต้องเตรียมอาหาร และเครื่องดื่ม ต่างๆ ไปเอง ส่วนห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำแบบใช้ดินกลบไม่มีน้ำให้ส่วนใหญ่หลังจากที่พักค้างคืนในบริเวณจุดชมทะเลหมอกนักท่องเที่ยวจะลงมาอาบน้ำ และล้างอุปกรณ์ต่างๆ  ที่บริเวณตัวอุทยาน แห่งชาติแม่เมย เนื่องจากที่อุทยานฯ มีห้องน้ำและ สิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า และที่อุทยานแม่เมยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในตัวอุทยานฯ อีกเช่น น้ำตกแม่ระเมิง น้ำตกชาวดอย น้ำตกแม่สลิดน้อย

การเดินทาง จากตัวเมืองตากไปตามเส้นทางสายแม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง ทางหลวงหมายเลข 105 ระยะทางประมาณ 114 กิโลเมตร มีทางแยกขวามือที่จุดตรวจแม่สลิดเป็นทางที่ตัดไปสู่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่เป็นทาง ขึ้นเขาไปอีกประมาณ 11 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ ทางขึ้นเขาเป็นทางชันรถบัสใหญ่ไม่สามารถขึ้นไปได้ (หมายเหตุ เส้นทางหลวงหมายเลข 105 ช่วงแม่สอด-แม่ระมาด-ท่าสองยาง เป็นเส้นทางเลียบชายแดนจึงไม่ แนะนำให้เดินทางผ่านหลังเวลา 18.00 น.) หรือนั่งรถสองแถวประจำทางจากแม่สอดไปบ้านแม่สลิดหลวงหลังจาก นั้นต้องเหมารถต่อไปที่ทำการอุทยานฯ

ที่ตั้ง   อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 

ขอบคุณภาพจาก Mommy Pedia

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.thaiticketmajor.com/

ป่าดอกเสี้ยว

20130211152412.jpg

บ้านป่าเหมี้ยง เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนโดยอยู่ห่างจากตัวอุทยานฯประมาณ 14 กม. บ้านป่าเหมี้ยง ชุมชน บนเขาสูงโอบล้อมด้วยป่าเหมี้ยง มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็น ภูเขาสลับซับซ้อนบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนเหมี้ยง แปรรูปเหมี้ยงและหา ของป่าวิถีชีวิตของคนใน ชุมชนยังคงรูปแบบ ดั้งเดิมมีความเป็นเอกลักษณ์ในด้านขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมและ การละเล่นต่างๆ  ดอกเสี้ยวจะถูกปลูกอยู่บริเวณลานเล็กๆ เกาะชายเขาและเลาะไปตามแนวผา ช่างงดงามตะการตา ดอกเสี้ยวขึ้นเป็นจำนวนมากเข้าไปในหุบเขาและกระจายอยู่บนพื้นเขา ดอกเสี้ยวจะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกเสี้ยวป่าสีขาวบริสุทธิ์ จะบานทั่วหุบเขาและระห่างทางเดิน ดอกเสี้ยวป่า เป็นดอกไม้พื้นเมือง ลักษณะดอก จะมีสีขาว มี 5 กลีบ มีแต้มสีชมพูที่กลีบใหญ่มีขึ้นมากที่สุดที่ บ้านป่าเหมี้ยง ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน ซึ่งในทุกปีจะมีเทศกาลดอกเสี้ยวบาน

การเดินทาง จากอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านป่าเหมี้ยง เส้นทางเป็นทางลาดยาง 6 กิโลเมตร และทางคอนกรีตอีก 10 กิโลเมตร ลัดเลาะตามภูเขาสูงใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เส้นทางที่ 2 เดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มาตามเส้นทาง ตำบลห้วยแห้ว กิ่งอำเภอแม่ออน ผ่านบ้านแม่กำปองเข้ามายังบ้านป่าเหมี้ยง เส้นทางนี้ชันและแคบแต่เส้นนระยะทางสั้นกว่า

ที่ตั้ง  บ้านป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง

ขอบคุณภาพจาก mcot.net

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.thailandmgg.com

 

มอหินขาว

Mor-Hin-Khao06.jpg

มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นกลุ่มหินขนาดใหญ่จำนวน 3 กลุ่ม โดยจะมีหินทรายก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเป็นสีขาวและโดดเด่นในพื้นที่ และเป็นที่มาของคำว่า มอหินขาว และในบริเวณยังมีเสาหินขนาดใหญ่จำนวน 5 เสา ตั้งเรียงรายกันเป็นแถว มีความสูงประมาณ 12 เมตร นอกจากนั้นยังมีแท่นหินที่มีรูปร่างคล้ายเรือ เจดีย์ หอเอียงเมืองปิซ่า และคล้ายกระดองเต่า ซึ่งจัดเป็นกลุ่มหินที่ 1 กลุ่มหินที่ 2 อยู่ห่างออกไป แท่นหินจะมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันออกไป และเมื่อห่างออกไปอีกประมาณ 1,500 เมตร จะเป็นกลุ่มหินที่ 3 ที่เป็นแท่นหินและเสาหินขนาดเล็ก โดยลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผาที่มีชื่อว่า ผาหัวนาก และบริเวณมอหินขาวยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ เดิมพื้นที่แถวนี้เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่ และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่ามอหินขาวสโตนเฮนจ์ เมืองไทย“เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาวส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว ที่มอหินขาวไม่มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว จะมีแต่สถานที่กางเต้นท์ไว้คอยให้บริการ มีห้องน้ำ ร้านขายของและ ร้านอาหารเล็กๆให้บริการ

การเดินทาง จากตัวจังหวัดชัยภูมิ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 ถนนสายชัยภูมิ – ตาดโตน เป็นทางลาดยางระยะทาง ประมาณ18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านของอุทยานแห่งชาติตาดโตน ตามถนนตาดโตน – ท่าหินโงม เป็นทาง ลาดยางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายตามถนนแจ้งเจริญ-โสกเชือก เป็นทางลูกรัง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรถึง บ้านวังคำแคนจากนั้นเลี้ยวขวาช่วงบ้านวังคำแคน ่ ไปต่ออีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร เส้นทางเป็นถนนราดยาง

ที่ตั้ง  อุทยานแห่งชาติภูแลนคา บ้านวังคำแคน หมู่ 9 ต.ท่าหินโงม  อ.เมือง จังหวัดชัยภูมิ

ขอบคุณภาพจาก  thaiticketmajor

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://www.paiduaykan.com

ป้อมปี่

57682447c.jpg

จุดชมวิวป้อมปี่ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักหลังจากได้ไปเที่ยวชม อ.สังขละ เนื่องจากสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างมาก ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินในได้อย่างสวยงามในยามเย็น อีกทั้งผู้คนที่ได้ไปพักนิยมลงไปเล่นน้ำในบริเวณตีนเขา เนื่องจากมีบริการเรือแคนนู และห่วงชูชีพ อีกทั้งมีบริการที่พัก ร้านอาหาร จึงทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาพักที่นี่ค่อนข้างมาก ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ สำหรับการขอข้อมูลท่องเที่ยว ข้อมูลที่พัก รวมทั้งร้านค้าร้านอาหาร สามารถติดต่อที่จุดบริการ ในพื้นที่ของลานกลางเต้นท์จะเป็นเนินเขาเล็กๆ ประมาณครึ่งลูก มีน้ำโอบรอบ มุมหนึ่งคือบ้านพัก ส่วนอีกมุมเป็นที่กลางเต้นท์ และพื้นที่จะมีการไล่ระดับเหมือนขั้นบันได้ขนาดใหญ่ที่พอดีกับขนาดของเต้นท์และเผื่อสำหรับการปูเสื่อนั่งรับลมหน้าเต้นท์ไม่ว่าจะกางเต้นท์มุมไหนก็สามารถมองเห็ฯวิวได้เหมือนกันหมด

การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม.  ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านทั้งไทรโยคน้อย และไทรโยคใหญ่  ท่านจะพบสามแยก เลี้ยวขวามือไป สังขละบุรี จะผ่าน น้ำตกเกริงกะเวีย+น้ำตกไดช่องถ่อง  ก่อนถึงสังขละ ก็จะพบ อช.เขื่อนเขาแหลม และขับเลยไปอีกประมาณ 2 กม. ก่อนถึงสังขละ จะมีป้ายบอกว่า ป้อมปี่ มีป้ายขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ สังเกตได้จากป้ายบอกทางเข้าจะเป็นเนินเขา

ที่ตั้ง  อ.ทองผาภูมิและอ.สังขละบุรี  จ.กาญจนบุรี

ขอบคุณภาพจาก  oknation

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.edtguide.com/

พ า เ ที่ ย ว   ช ว น ส นุ ก ไ ป ก ั บ เ ร า a n n a o n t o u r . c o m
ข้อมูลทั่วไปกาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี ที่พักกาญจนบุรี ร้านอาหารกาญจนบุรี การเดินทางไปกาญจนบุรี แผนที่กาญจนบุรี
จุดชมวิวป้อมปี่ ตั้งอยู่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนเขาแหลม
ภาพถ่าย
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ยามเช้าที่ป้อมปี่
แพกลางน้ำที่ป้อมปี่
วิวทะเลสาบป้อมปี่
วิวสวย ๆ ที่ป้อมปี่
เล่นน้ำที่ป้อมปี่
ศาลาพักผ่อนที่ป้อมปี่
บ้านพักที่ป้อมปี่
กระต่ายที่ป้อมปี่

จุดชมวิวป้อมปี่จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยแห่งหนึ่งในกาญจนบุรี poompee sunset viewpoint
ข้อมูล
จุดชมวิวป้อมปี่ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักหลังจากได้ไปเที่ยวชม อ.สังขละ เนื่องจากสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างมาก ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินในได้อย่างสวยงามในยามเย็น อีกทั้งผู้คนที่ได้ไปพักนิยมลงไปเล่นน้ำในบริเวณตีนเขา เนื่องจากมีบริการเรือแคนนู และห่วงชูชีพ อีกทั้งมีบริการที่พัก ร้านอาหาร จึงทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาพักที่นี่ค่อนข้างมาก ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตู้ ป.ณ. 15 ปท.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
โทรศัพท์ 034-532099
การเดินทาง
แผนที่ตั้งจุดชมวิวป้อมปี่
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม. จะพบสะพานลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม. ท่านจะพบสี่แยก ให้ท่านเลี้ยวขวา ( แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน ให้ขับไปทาง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านทั้งไทรโยคน้อย และไทรโยคใหญ่ ( หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวงหมายเลข 323 ) ท่านจะพบสามแยก ( ตรงไปไปอำเภอทองผาภูมิ + เขื่อนเขาแหลม ถ้าเลี้ยวขวาไปอำเภอสังขละบุรี ) ให้ท่านเลี้ยวขวามือไป สังขละบุรี ซึ่งท่านจะผ่าน น้ำตกเกริงกะเวีย+น้ำตกไดช่องถ่อง ประมาณหลักกม.ที่ 36-35 ก่อนถึงสังขละ ก็จะพบ อช.เขื่อนเขาแหลม และขับเลยไปอีกประมาณ 2 กม. ประมาณหลักกม.ที่ 35-34 ก่อนถึงสังขละ จะมีป้ายบอกว่า ป้อมปี่ มีป้ายขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ สังเกตได้จากป้ายบอกทางเข้าจะเป็นเนินเขา

วัดถ้ำเขาหลวง

tkl.jpg

ถ้ำเขาหลวง ตั้งอยู่ที่อยู่บนเขาหลวง ห่างจากเขาวังประมาณ 5 กิโลเมตร จากเชิงเขามีบันไดคอนกรีตนำสู่ทางลงถ้ำ เขาหลวงเป็นภูเขา ขนาดเล็กมียอดสูงสุดเพียง 92 เมตร มีหินงอกหินย้อย สีสันสวยงาม สำหรับถ้ำเขาหลวงถือเป็นถ้ำใหญ่และสำคัญที่สุดในเมืองเพชร ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปฉลองพระองค์อันสำคัญยิ่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างถวาย ตรงทางเข้าเชิงเขาหลวงด้านขวามือมีวัดใหญ่อยู่วัดหนึ่ง ชาวเมืองเรียกว่า วัดถ้ำแกลบ ปัจจุบันชื่อ “วัดบุญทวี” ซึ่งเป็นวัดใหญ่ น่าชมมาก เพราะท่านเจ้าอาวาสวัดนี้เป็นช่าง ได้ออกแบบและสร้างศาลาการเปรียญที่ใหญ่โต ประตูโบสถ์เป็นไม้สลักลายสวยงามมาก วัดถ้ำแกลบนี้มีตำนานเล่าว่า ปากถ้ำแกลบที่วัดนี้คือ ทางเข้าสู่เมืองลับแลอันเป็นเมืองที่มีแต่หญิงสาวทั้งนั้น แต่ก็เป็นเพียงตำนานของชาวเมืองเพชรนับร้อยปีมาแล้วไฮไลต์ของการมาเที่ยวถ้ำเขาหลวง คือ การได้ชมแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาจากปล่องแสงของเพดาน ถ้ำลงมาสู่พื้นข้างล่างคล้ายกับมีสปอร์ตไลท์ส่องลงมาเป็นภาพที่อัศจรรย์และงดงามมาก ซึ่งช่วงเวลาที่จะมีแสงส่องลงมาเยอะที่สุด คือประมาณ 9.30 -10.30 น. ซึ่งลักษณะของลำแสงจะแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศในแต่ละฤดู

การเดินทาง จากการเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง กรุงเทพฯ-เพชรบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 หรือเพชรเกษม ตรงเข้าตัวเมืองเพชรบุรีตรงทางแยกต่างระดับไปชะอำ เมื่อตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะเป็นเชิงเขาวังหรือพระนครคีรี ถึง 3 แยก เลี้ยวซ้ายจากนั้นตรงอย่างเดียวไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ จะมาถึงทางขึ้นเขาหลวง

ที่ตั้ง  อ.เมือง  จ.เพชรบุรี

ขอบคุณภาพจาก  amazingthaitour

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://www.paiduaykan.com

 

ม่อนกิ่วลม

00342_1340.jpg

ม่อนกิ่วลม อยู่ ณ อุทยานแห่งชาติแม่เมย จังหวัดตาก อยู่ในเขตอำเภอท่าสองยาง บริเวณแนวตะเข็บชายแดนด้านตะวันตกของไทยติดต่อกับประเทศพม่า ขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามและอลังการของทะเลหมอก มาช้านานซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติ ป่าเขา ลุ่มน้ำอุดมสมบูรณ์ ม่อนกิ่วลมถือเป็นแหล่งชมทะเลหมอกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่เรียกว่าแหล่งเพราะว่า ที่นี่มีทะเลหมอกให้คุณได้ชมมากกว่าหนึ่งจุดแต่ละจุดเป็น จุดชมทิวทัศน์ ของขุนเขาและทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและ นักถ่ายภาพธรรมชาติมานานบริเวณที่ทำ การอุทยานฯ มีการจัดภูมิทัศน์ และตกแต่งพื้นที่ด้วยไม้ประดับดูสวยงาม บรรยากาศโดยรอบที่ ทำการสงบร่มรื่นด้วยป่าเขา รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ สะดวกแก่การเดินทาง และที่สุดของการมาเยือนอุทยานแห่งชาติแม่เมยก็คือ ม่อนกิ่วลมเป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว คือ ฤดูหนาว

การเดินทาง: จากจังหวัดตาก ใช้ทางหลวงหมายเลข 105 ตาก-แม่สอด ระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลขเดิม แม่สอด-แม่สะเรียง ผ่านอำเภอแม่ระมาด อำเภอท่าสองยาง ผ่านถ้ำแม่อุสุ กระทั่งถึงตำบลแม่สอง รวมระยะทางจากอำเภอแม่สอดประมาณ 115 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมาย 1267 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทางลาดชันเพื่อขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติแม่เมย

ที่ตั้ง  อุทยานแห่งชาติแม่เมย  อ.ท่าสองยาง  จ.ตาก

ขอบคุณภาพจาก  ezytrip

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.paiduaykan.com